ถึงชั่วโมงนี้การติดตามสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของ
ไทยกำลังเป็นที่สนใจของทุกฝ่ายทั้งฝ่ายความมั่นคง ศอ.บต.
และประชาชาชนทั่วไปในทั้งและนอกพื้นที่
และแน่นอนว่าฝ่ายขบวนการเองก็ต้องติดตามความเป็นไปนี้ในลักษณะเกาะติด
เพราะนี่จะเป็นจุดหักเหสำคัญของสถานการณ์ว่าจะดีขึ้นหรือเลวร้ายลงไปอีก
ที่ว่าดีขึ้นคือ
ความร่วมมือระหว่างแกนนำระดับปฏิบัติการของขบวนการกับฝ่ายความมั่นคงครั้ง
นี้ แม้ว่าจะยังไม่มีบทสรุปที่แน่ชัดว่าจะพบทางออกร่วมกันหรือไม่
แต่เชื่อได้ว่าระหว่างนี้สถานการณ์ความรุงแรงจะเบาบางลง แม้ว่าจะยังมี
ผกร. กลุ่มอื่นๆ
ที่ไม่เห็นด้วยและยังคงปฏิบัติการจองเวรกับเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้
บริสุทธิ์ต่อไป แต่อย่างน้อยๆ
ความเคลื่อนไหวก่อเหตุในพื้นที่รับผิดชอบของกลุ่ม “เจ๊ะอาลี” หรือ
นายแวอาลี คอบเตอร์ วาจิ ก็น่าจะลดน้อยลง
และที่ว่าจะเลวร้ายลงก็เพราะแกนนำระดับนโยบายที่อาจไม่เห็นด้วยจะสั่งการให้
ผู้ก่อเหตุรุนแรงกลุ่มอื่นๆ
เร่งก่อเหตุรุนแรงเพื่อแสดงให้เห็นว่ายังคงมีศักยภาพในการเข่นฆ่าประชาชนต่อ
ไป ซึ่งตรงนี้น่าเป็นห่วง
แต่ที่แน่ๆ จากผลของการตัดสินใจของ
“เจ๊ะอาลี”และสมาชิกรวม 93 คนครั้งนี้
ส่งผลให้เกิดการดิ้นทุรนทุรายของฝ่ายโฆษณาชวนเชื่อของขบวนการขนานใหญ่
กระแสการบิดเบือนข่าวสารชนิดหน้ามือเป็นหลังเท้าถูกส่งผ่านสื่อชนิดต่างๆ
โดยเฉพาะสื่อเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศราวห่ากระสุน
ซึ่งรวมถึงเว็บไซต์ http://www.ambranews.com ซึ่งเป็นของคนไทยขายชาติบางคนที่ไปเช่า Sever ของ
ประเทศมาเลเซีย
ที่คนในวงการสื่อรู้ดีว่ามักจะเสนอข่าวเผาบ้านตัวเองโดยมุ่งโจมตีฝ่ายความ
มั่นคงและรัฐบาลไทยเป็นการเฉพาะในขณะที่ข้างฝ่ายมาเลเซียแสร้งทำไม่รู้ไม่
เห็น ด้วยการสร้างภาพของ “เจ๊ะอาลี”
แกนนำระดับสั่งการในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส
ผู้ก่อคดีความมั่นคงมาอย่างโชกโชน
และเป็นผู้ร่วมวางแผนสั่งการให้แนวร่วมนำกำลังเข้าปล้นปืนที่กองพันพัฒนาที่
4 เมื่อ 4 ม.ค.47 ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิตไป 4 นาย
และเพื่อนร่วมขบวนการที่ออกมารายงานตัวพร้อมกันครั้งนี้ให้กลายเป็นชาวสวน
ยาง เรียกว่าจากสหายร่วมรบกลายเป็นศัตรูในทันทีเลยที่เดียว
ขณะเดียวกันก็กุข่าวว่าทั้ง 93
คนที่มาพบปะพูดคุยเพื่อสร้างแนวทางสันติในวันนั้นได้รับค่าจ้างจากฝ่ายความ
มั่นคงมาแสดงละคร
นี่ย่อมแสดงถึงทาสแท้ในอุดมการณ์จอมปลอมของขบวนการที่ไม่เคยให้ความจริงใจ
กับใครแม้คนที่เคยร่วมอุดมการณ์ ด้วยความกลัวว่าจะเสียมวลชน
นี่จึงเป็นการดิ้นรนของขบวนการเพื่อรักษามวลชนไว้ให้
มากที่สุด
เพราะรู้กันอยู่ว่าการต่อสู้ในพื้นที่นี้ใครเพลี่ยงพล้ำงานด้านมวลชน
ประตูแพ้ก็อยู่ไม่ไกล
ด้านกลุ่มพูโลก็เข้าร่วมผสมโรงกับเค้าด้วยแบบไม่ทิ้งลาย “เสือกระดาษหิวเงิน”
ตั้งหน้าตั้งตาเก็บเกี่ยวการปฏิบัติของกลุ่มอื่นๆ
มานำเสนอแบบบิดเบือนตามถนัดผ่านเว็บไซต์ของกลุ่ม
เพื่อแอบอ้างหาผลประโยชน์ใส่ตนเองและพวกพ้องโดยการแบมือขอเงินจากต่างประเทศ
เหมือนขอทานที่ไร้ยางอายต่อไป